วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทำไมถึงทำกับเธอได้ (ที่นี่ความจริง)

ทำไมถึงทำกับเธอได้ (ที่นี่ความจริง)
เวทย์ เธียรธโนปจัย

ที่ต้องจั่วหัวอย่างนี้ไม่มีความคิดประสงค์ร้ายกับใครทั้งสิ้น เพียงแต่อยากจะสะกิด คนที่ดูแลรับผิดชอบรายการนี้อยู่ คือ AsiaUpdate TV ว่า ท่านมีเพชรอยู่ในมือเหตุไฉนจึงเอาผ้าห่อแล้วซุกไว้ใต้ถุนห้องส่งเล่า เหมือนกับไม่เต็มใจอยากให้รายการนี้อยู่กับท่านยังไงยังงั้น นอกจากนี้ท่านยังไม่สนใจเสื้อแดงแฟนคลับของ”ที่นี่ความจริง” จำนวนมากพ่วงอยู่คอยติดตามชมรายการอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ทั่วทั้งประเทศ ที่ AsiaUpdate TV สามารถส่งคลื่นออกไปทั่วประเทศ จนถึงต่างประเทศก็มีเสื้อแดงรับชมรายการได้อยู่ คงไม่ต้องบอกก็ได้ว่า Rating ของรายการนี้ มีคนดูคนชอบมากน้อยแค่ไหน แค่เอ็สเอ็มเอ็ส(SMS) ที่คนดูส่งเข้ามาในรายการตลอดเวลาก็นับไม่ไหวแล้ว แม้แต่รายการหลัก Free TV ของทั้งรัฐบาล ทหารและเอกชนรวมกันแล้วก็ไม่เท่าแฟนคลับรายการ ”ที่นี่ความจริง” จริงๆ

ที่ต้อง Blogging มาให้สถานีทราบเพราะเข้าใจว่า AsiaUpdate TV เป็น Non-commercial TVถ้าเข้าใจผิดก็ช่วยบอกด้วย เพราะเห็นขึ้นเบอร์บัญชีธนาคาร ๒ แห่งไว้ให้เสื้อแดงให้การสนับสนุนซึ่งก็น่าเห็นใจ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็คิดว่าผู้บริหาร AsiaUpdate TV ก็ต้องทำงานหนักเพื่อประคองและทำให้สถานีอยู่ได้ แต่ท่านต้องไม่ลืมว่า ท่านเองจะอยู่ได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับรายการที่ท่านออกอากาศเป็นเรื่องสำคัญทีเดียว หลายรายการที่ท่านออกอากาศอยู่ก็นับว่าน่าสนใจเพราะผู้จัดรายการเป็นผู้ที่คนรู้จักดีมีความสามารถทำรายการให้เป็นที่น่าสนใจติดตามทีเดียว แต่ที่ต้องร้องมาให้ทราบเป็นพิเศษคือรายการ ”ที่นี่ความจริง” เท่าที่ติดตามชมรายการนี้มาตลอดน่าจะพูดได้ไม่ผิดว่า รายการที่นี่ความจริงสามารถเพาะบ่มให้เสื้อแดงเข้าใจประชาธิปไตยได้อย่างงอกงามถูกต้องกระชับ Update และไม่หลงทาง และไม่ใช่แค่เสี้อแดง ใครได้ดูก็ล้วนติดใจทั้งนั้น

ก่อนที่จะไปต่อต้องขออนุญาตเรียนให้ทราบว่า ไม่รู้จักอาจารย์ตุ้ม จา หวาน วิทยากรที่จัดรายการทั้ง ๓ ท่านเป็นการส่วนตัว ทั้งๆ ที่อยากรู้จักเพราะเหมือนมีดิกชั่นนารี ตำราเรียนกฎหมายและโทรทัศน์ช่องข่าวต่างประเทศติดตัวให้ได้ดูได้อ่านเมื่อไหร่ก็ได้ ข้อสำคัญท่านพูดเก่งกันทุกคนแล้วก็พูดจริงด้วย ไม่เหมือนนักจ้อบางคนที่ตอแหลไปวันๆเชื่อไม่ได้เลย น่าอิจฉาเสื้อแดงและสถานี AsiaUpdate TV ที่อาจารย์เสียสละมาทำรายการช่วยคนเสื้อแดงและคนอื่นๆที่ยังตาขวางได้ตาสว่างและให้ได้รู้ความจริงด้วย อาจารย์นักวิชาการเดี๋ยวนี้หาทำยายาก ส่วนมากหลายคนมักจะถูกมือที่มองไม่เห็นจับตัวไปเป็นขี้ข้าจำนวนไม่น้อย จึงควรที่เสื้อแดงต้องช่วยดูแลท่านให้ดี อย่าให้ใครปล้นเอาตัวไปอีก

มีข้อเสนอแนะอยากให้สถานีลองปรับผังรายการ “ที่นี่ความจริง” เพื่อจะได้เกิดประโยชน์มากขึ้น ทำให้ความจริงปรากฏแผ่กระจายไปทั่วมากขึ้น ที่ AsiaUpdate TV เพิ่มเวลาให้รายการที่นี่ความจริงเป็น ๒ วัน จันทร์-อังคาร ก็ดีอยู่หรอก แต่เวลา ๒๑.๓๐-๒๒.๓๐ น. จะไม่ดึกไปหรือสำหรับรายการ TOP-HIT อันดับหนึ่งอย่างนี้ ข้อสำคัญสาระน่ารู้เกี่ยวกับประชาธิปไตย กฎหมาย ข่าวจับโกหกของรัฐบาล เป็นเรื่องที่เราอยากให้เสื้อแดงและประชาชนทั่วไปได้รู้ความจริงกันไม่ใช่หรือ คนต่างจังหวัดเขานอนกันเร็วแล้วยังมีเยาวชนที่ควรจะได้เรียนรู้ความจริงกับประชาธิปไตย และเหตุการณ์ในต่างประเทศด้วยจึงน่าจะเลื่อนรายการที่นี่ความจริงให้เร็วขึ้น อาทิตย์ละ ๒ วันน่าจะจัดให้เขาได้ ความจริงจะได้เปิดเผยให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้กันทั่ว

สิ่งที่น่าจะพิจารณาหากจะสลับข่าว ๒๐.๐๐น. (คงข่าวในพระราชสำนักไว้เหมือนเดิม) แล้วเอารายการที่นี่ความจริงมาแทนที่เพราะเสื้อแดงเขาไม่อยากเห็นหน้านายกอภิสิทธิ์หลายคนจึงไม่อยากเสี่ยงเสียเครื่องรับ TV หากมีหน้านายกโผล่ออกมากวนตีนกวนใจชาวบ้าน จะพลอยอดดูรายการที่นี่ความจริงและรายการอื่นๆของสถานี อีกอย่างน่าจะเอาที่นี่ความจริงมาฉายซ้ำในเวลากลางวันดีกว่าจะเปิดเพลงทิ้งเวลาเสียเปล่าๆ เท่าที่ฟังคนที่ดูรายการ AsiaUpdate TV เขาบ่นให้ฟังค่อนข้างหนาหูว่า สถานีไม่ค่อยเห็นความสำคัญของรายการที่นี่ความจริง ซึ่งน่าจะจัดเวลา Prime Time ให้ตั้งนานแล้ว อาจารย์ทั้ง ๓ สาวจะได้มีกำลังใจทำให้รายการดียิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องไม่ลืมกันที่โทรทัศน์ต่างประเทศพากันเสนอข่าวเสื้อแดงจนติดอันดับโลกเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาจนฮือฮากันไปทั้งโลกก็เพราะฝีมือท่านทั้งหลายนี่แหละ ทำให้ Free TV ของไทยทุกช่องตาค้าง จน รมต. ที่คุมช่องหอยม่วงถูกย้ายเข้ากรุไปเลย ใช่หรือเปล่าไม่รู้

อ้อ ไม่เคยดูรายการเชื่อมั่นประเทศไทยที่นายกออกแรงเองแสดงเอง ตอนนี้รายการยังอยู่หรือถอดทิ้งไปแล้วไม่รู้จริงๆ ถ้าเลิกไปแล้วก็น่าเสียดาย เพราะอยากเห็นตัววัดระหว่างรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับรายการที่นี่ความจริง รายการหลังจะทิ้งห่างไปสักกี่ขุม แล้วนายกจะตีตื้นได้หรือไม่ แน่ละรายการที่นี่ความจริงในแง่คนที่เรียนการประชาสัมพันธ์มาต้องยกนิ้วให้ เพราะถูกต้องตามตำราเป๋งเลย ในการประชาสัมพันธ์นั้นมีหลักอยู่นิดเดียว คือเรื่องที่จะเอามาประชาสัมพันธ์นั้น ต้องเป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง จะเป็นได้ก็แค่การโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น แค่นี้ก็พอมองออกได้ว่า ทำไมรายการเชื่อมั่นประเทศไทย จึงไม่มีคนสนใจดู เพราะนอกจากเนื้อหาของรายการคนเขารู้ว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาล ยิ่งตัวนายกรัฐมนตรียิ่งแล้วใหญ่ เพราะท่านพูดแล้วแต่ไม่มีคนเชื่อ อย่างนี้ผิดหลักการประชาสัมพันธ์แน่ เพราะคนพูดเก่งกับคนที่พูดจริงนั้น คนละเรื่องกันห่างกันไกลลิบทีเดียว

แล้วถ้าจะช่วยนายกล่ะ ” // โอ้วไม่่.... แค่นี้ก็แย่พออยู่แล้ววว. ><""

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

ถึงเวลาเข้าแทรกแซงประเทศไทยได้หรือยัง?

ถึงเวลาเข้าแทรกแซงประเทศไทยได้หรือยัง?
โดย Andrew Spooner 21 มีนาคม 2011
แปล เวทย์ เธียรธโนปจัย

องค์การสันนิบาตชาติอาหรับและฝ่ายตะวันตกที่กำลังทิ้งระเบิดโจมตีลิเบียอยู่ขณะนี้ตามมติที่ ๑๙๗๓ ของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ที่ได้ตัดสินใจเข้าแทรกแซงเพื่อป้องกันชีวิตพลเรือนชาวลิเบียที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแบบเสรีนิยมแต่ต้องถูกจำกัดขอบเขตไว้ในวงล้อมการต่อสู้กำลังถูกทดสอบอย่างเต็มที่

จุดปะทุเดือดเอเซียแห่งนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าไปชี้ถูกหรือผิดในการเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของลิเบีย โทนี่แบร์ (Tony Blair) อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เป็นผู้ยกกรณีการเข้าแทรกแซงดังกล่าวที่นั่น ในขณะที่ โอเว่น โจนส์ (Owen Jones) ผู้เขียนบล๊อกเกอร์และนักเขียนชาวอังกฤษหัวเอียงซ้ายก็ได้ยกปัญหาบางประการในการเข้าแทรกแซงกิจการภายในของลิเบียด้วย

ถ้าเรายกหลักการพื้นฐานของทั้งมติ ๑๙๗๓ คณะมนตรีความมั่นคงและข้อโต้แย้งส่วนสำคัญโดยผู้ที่เข้าแทรกแซง -“เราจำเป็นต้องปกป้องชีวิตพลเรือน” บางคนจะมีคำถามต่ออีกว่า แล้วทำไมจึงไม่มีการเข้าแทรกแซงกรณีของประเทศไทย?

จากบันทึกที่มีอยู่ ผมพิจารณาการฆ่าหมู่ที่กรุงเทพ เมื่อปี ๒๐๑๐ โดยสรุปได้ว่า – คือการสังหารหมู่แน่นอน ในความเห็นของผมนั้นหลักฐานมีอยู่แจ้งชัดท่วมท้น – พลเรือนต้องตกเป็นเป้าและใช้วิธีการ อย่างเช่น สไนเปอร์ (Snipers) พลแม่นปืน วางแผนเพื่อสังหารพวกเขาโดยเฉพาะ ระดับกองกำลังที่ใช้กับพลเรือนเหล่านั้นไม่ได้เป็นสัดส่วนที่สมดุล หลากหลาย และเผยให้เห็นถึงระดับความโหดร้ายทารุณที่ หากเป็นพม่า เกาหลีเหนือ อิหร่าน หรือชาวลิเบีย นิ้วที่กดไกปืน จะสำแดงให้โลกต้องรับรู้ถึงความโหดร้ายทารุณและบังคับให้ต้องกระทำตอบโต้ในที่สุด

แน่ละ บางคนที่ปฏิเสธในเรื่องการฆ่าหมู่จะพูดว่า “เสื้อแดงมีอาวุธ” ซึ่งที่สุดแล้วไม่ใช่ จากหลักฐานส่วนใหญ่ที่ปรากฎให้เห็นไม่มีอะไรเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวใดๆเลย พวกเขามีเพียงระเบิดขวดบรรจุเบนซิน หนังสติ๊กกับก้อนหิน คำถามที่จะมีในบรรทัดต่อไปก็เป็นเรื่องปกติ “แล้วชายชุดดำเกี่ยวอะไรด้วย” แน่ละไม่เกี่ยว ไม่มีแม้แต่คนเดียวในกลุ่มที่ลึกลับนี้ ทั้งจำนวน สังกัดและเหล่าไม่เป็นที่เปิดเผย ไม่มีใครถูกจับได้ ชายชุดดำคงเป็นเพียงสัญลักษณ์เหมือนเช่น เสธ.แดงที่ใช้พูดกันถึงสิ่งที่เลยเถิดเกินความเป็นจริงของการสังหารหมู่ในกรุงเทพฯ ชายชุดดำจึงยังคงถูกใช้เพื่อเป็นการปลุกผีโดยพวกที่กระหายอยากให้ครอบคลุมถึงการก่ออาชญากรรมของรัฐบาลไทย

ดังนั้น ผู้ที่รับว่ารัฐบาลไทยทำร้ายประชาชน ยังคงคุกคามประชาชนและประกาศใช้กฎหมายบังคับเพื่อสังหารหมู่ต่อไป แล้วอะไรต่อไปหรือ? ฝูงบินทิ้งระเบิดของอังกฤษบินอยู่เหนือฟ้ากรุงเทพฯ? กำลังพลร่มของฝรั่งเศสเตรียมพร้อมลุยอยู่ที่เชียงใหม่? แน่ละไม่ใช่ทั้งสิ้น ความนึกคิดเช่นนั้นแท้จริงพิจารณาให้ดีไม่ผิดที่ว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อของคนเสียสติ

แต่แจ่มชัด ถ้าท่านรับว่ามีการสังหารหมู่เกิดขึ้น มีการดำเนินการกรณีที่บางรูปแบบจะต้องดำเนินการ ในขณะที่ระบบปกครองของรัฐบาลเป็นแบบธุระไม่ใช่ไม่มีการสอบสวนการก่ออาชญากรรมสังหารหมู่ในกรุงเทพฯแต่กลับพยายามปกปิด มีการรายงานผลการสอบสวนที่กลับไปกลับมาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(THAIFBI) รัฐบาลไทยปฏิเสธว่าทหารยิงนักข่าวต่างประเทศและผู้ช่วยพยาบาล คงจะเป็นที่น่าประทับใจมากกว่าถ้าพวกเขาไม่เผยสิ่งชั่วร้ายเสื่อมโทรมที่อยู่ในใจของระบบการปกครองไทย

ถึงกระนั้นก็ตาม แม้จะมีการใช้ สไนเปอร์ (Snipers) เครื่องทรมาน นักโทษการเมือง การเซ็นเซอร์ และการปกปิดเป็นเครื่องมือ ประชาคมระหว่างประเทศยังคงเงียบสนิท ไม่มีแม้กระทั่งการประนามอย่างรุนแรงจากนักเคลื่อนไหวแทรกแซงที่มีต่อรัฐบาลไทยและต่อพลเรือนไทยที่เสียชีวิต จะมีปรากฎให้เห็นเพียงส่วนน้อยที่แสดงความโกรธพอใช้เป็นเครื่องวัดระดับประเทศ

และมีการกระทำอีกมากมายหากจะใช้กันทั้งระยะไกลและใกล้ของมาตรการแทรกแซงทางทหารที่ประชาคมระหว่างประเทศอาจจะบังคับใช้ในประเทศไทย โดยเริ่มจากการเตือนประเทศไทยต่อความล้มเหลวที่ไทยไม่ใส่ใจในการตรวจสอบการเสียชีวิตของพลเริอน ก่อนที่คณะมนตรีความมั่นคงจะใช้มาตรการที่ ๒ บังคับและก่อนที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะเริ่มต้นพิจารณาคดี ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี อังกฤษและสหรัฐอเมริกาทั้งคู่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง และมีความแน่นอนที่จะใช้ตำแหน่งกดดันประเทศไทยในลักษณะนี้ อันเป็นแบบอย่างชัดเจนที่ได้เริ่มใช้กับการสอบสวนในลิเบีย (เช่นเดียวกับประเทศไทย-ทั้ง ๒ ยังไม่ได้เป็นสมาชิกศาลอาญาระหว่างประเทศ) เพียงแต่ได้รับการอ้างถึง ICC โดยคณะมนตรีความมั่นคง

นี่สามารถจะพิจารณาได้ว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยหรือไม่? หามิได้ เป็นโอกาสของประเทศไทยต่างหากที่จะใช้เป็นเงื่อนไขข้อตกลงระหว่างประเทศและการเป็นหุ้นส่วนร่วมที่ได้ลงนามกันไว้แล้ว

นอกจากนี้ เราทุกคนรู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่เกือบจะใกล้ถึงการเข้าแทรกแซงโดยสามารถสรุปได้ความที่นี่ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา ประชาคมระหว่างประเทศไม่มีสิ่งจูงใจที่จะผลักดันพันธมิตรน้อยไปกว่าพุ่งเป้าตรงไปสู่ความรับผิดชอบ ข้อโต้แย้งโดยปกติที่เกี่ยวพันทางด้านศีลธรรมกับวัฒนธรรมจะถูกวางไว้ก่อน (ท่านคงทราบ ข้อโต้แย้งเดียวกันนี้ว่าได้ถูกยกเลิกทั้งหมดเมื่อฝ่ายตะวันตกเริ่มทิ้งระเบิดใส่เผด็จการที่ชั่วร้ายในสัปดาห์ดังกล่าว) เพื่อเป็นการพิสูจน์ได้ว่าถูกต้องจากการที่ไม่เข้าแทรกแซงรูปแบบใดก็ตามและไม่ว่าทูต สื่อมวลชน และ ผู้ปฏิบัติงานด้านองค์กรเอกชนที่มีกรุงเทพฯเป็นฐานส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทั้งหมด) นำไปสู่การมีส่วนช่วยอย่างเงียบๆก่อให้เกิดอาชญากรรมที่รัฐบาลไทยมีส่วนอย่างสำคัญด้วยการดำเนินการอย่างแทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลย

หนึ่งในบทเรียนหยาบๆ ที่สามารถดึงมาดูจากการแทรกแซงลิเบียปัจจุบันก็คือ จะไม่มีการแทรกแซงเช่นว่าเกิดขึ้นเว้นแต่มีการคุกคามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นต้องเสียชีวิต ทุกคนทราบดีว่า กัตดาฟี (Gaddafi) เป็นคนวิกลจริต แต่กว่าปีที่ผ่านมาการก่ออาชญากรรมของเขาถูกกลบด้วยน้ำมันจำนวนมหาศาลและสัญญาการซื้ออาวุธ ประชาคมระหว่างประเทศไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้นและล้มเหลวในการผลักดันลิเบียอย่างละมุนละม่อมไปสู่ระบอบประชาธิปไตยมากขึ้นๆ คำถามที่น่าสยดสยองและน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริงเกี่ยวกับประเทศไทยก็คิอ จะต้องให้มีการหลั่งเลือดมากขึ้นอีกเท่าใดก่อนที่ประชาคมระหว่างประเทศจะรับรู้คำร้องและกระทำสิ่งที่ถูกต้อง? หรือจะเป็นแค่เศษเสี้ยวของความรับผิดชอบและสิทธิมนุษยชนที่เป็นได้เพียงส่วนประกอบของแฟชั่นล่าสุดที่จะใช้โดยผู้ที่มีความคิดทางการเมืองแบบเสรีนิยม (interventionists) เท่านั้นเสมือนหนึ่งอยู่ในฉากภาพยนตร์ ตรงที่ "กู-สนใจ" ก็เพียงพอแล้วหรือ?

ประวัติศาสตร์ในการวิเคราะห์ท้ายที่สุดจะเป็นผู้พิพากษาของเรา

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

การสร้างภาพที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

การสร้างภาพที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
เวทย์ เธียรธโนปจัย

ศธ.ของบ 1.5พันล้าน หนุนสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พัฒนายา-นักวิจัย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
ก.ศึกษาธิการ ชงครม.ของบ 1.5 พันล้าน ส่งเสริมการวิจัย การพัฒนานักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และการสงเคราะห์ผู้ป่วย แก่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เป็นระยะเวลา 4 ปีั โดยงบก้อนใหญ่ 500 ล้านจะเอามาพัฒนายา...

พระราชอาญาไม่พ้นเกล้าพ้นกระหม่อม ขอพระราชทานพระราชานุญาตแสดงความคิดเห็นและใช้ภาษาสามัญ ข่าวของสถาบันจุฬาภรณ์ในข่าวไทยรัฐออนไลน์ที่อ้างถึงข้างต้น การจะควรมิควรประการใดสุดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ขอเดชะ

แค่อ่านพาดหัวข่าวและความนำข้างต้นก็เห็นชัดว่า รัฐมนตรี ก.ศธ. ท่านกำลังทำอะไรอยู่ ดูๆ ก็น่ารักน่าชมไม่น้อยที่ท่านอุตสาห์เป็นห่วงเป็นใยสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ของทูลกระหม่อมสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีขึ้นมาทั้งๆ ที่ทั้งปีทั้งชาติไม่เห็นท่านเคยสนใจ ว่ามีสถาบันนี้อยู่ เพราะไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงของท่านแต่อย่างไร ถ้าจะพูดถึงยาก็น่าจะเป็น รมต.ก.สธ. มากกว่า ก.อื่นๆ แต่อาจเป็นเจตนาดีของท่านหรือเปล่าไม่ทราบได้

การที่ รมต.ก.ศธ ชง ครม. ของบ ๑,๕๐๐ ล้านบาทเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆหลายอย่างโดยเฉพาะงบก้อนใหญ่จำนวน ๕๐๐ ล้านบาทจะเอามาพัฒนายา...ฟังแค่นี้ รมต. ก.สธ.คงจะอยู่เฉยไม่ได้แน่หรือจะค้อน รมต.ก.ศธ.หรือเปล่าไม่รู้ ทำไมไม่มาปรึกษาหารือกันก่อนท่านไปเอาข้อมูลที่ไหนมาว่าการพัฒนายาเขาใช้เวลา ๔ ปีแล้วใช้งบแค่ ๕๐๐ ล้านนั้นรมต.ก.ศธ. ท่านไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่องเลย ความจริงการพัฒนายานั้นต่างกับการพัฒนาต้นกล้ายางอย่างที่ รมต.ศธ. ท่านเคยทำมาแล้วถ้าจำไม่ผิด เพราะการพัฒนายาหลายตัวและยาบางอย่างเพียงแค่ตัวเดียวต้องใช้เวลาถึง ๑๐ ปีถึงกว่า ๒๐ ปีก็มี งบก้อนใหญ่ที่ท่านว่า ๕๐๐ ล้านนั้นจิ๊บจ๊อยมากไม่พอทำยาหรอก อ้อ มีชาวบ้านเขาฝากมาถามว่าเป็นฝีมือของท่านหรือเปล่าที่ขณะนี้ ราคายางรัดถุง ทำไมขึ้นราคาโหดเหลือเกินจากราคาถุงละ ๓๐ บาท เป็น ๑๖๐ บาท เขาว่าพรรคท่านเตรียมเลือกตั้งแล้วจริงหรือ

ที่จริงถ้า รมต.ก.ศธ. ท่านรู้ว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภาเมื่อไหร่ก็น่าจะบอกกันมั่ง รมต. ก.สธ. ยังอยากบ่นต่อ ไม่ใช่ชิงธงวิ่งเข้าเส้นชัยแต่คนเดียว ท่านอาจจะต้องการสร้างภาพให้คนรู้จักมากขึ้น เพราะอยู่ ก.ศธ. ไม่ค่อยมีเรื่องใหม่ให้เล่น คงมีแต่เรื่องตำราเรียนกับเครื่องแบบนักเรียนซึ่งก็ยังเป็นเรื่องวุ่นๆเก่ารายครามน่าเบื่อที่ท่านต้องมารับงานทำแทนคนอื่น

นอกจากไม่สามัคคีกันในระหว่าง รมต.ด้วยกันแล้วอย่างนี้จะสร้างความปรองดองในรัฐบาลเดียวกันได้อย่างไร ไหนบอกจะร่วมหอลงโรงด้วยกันไง นี่ถ้าชงเรื่องเข้า ครม.แล้ว เกิดพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลเขางอนขึ้นมาที่ไม่บอกเขาก่อน จะเอาตัวรอดพรรคเดียวเขาเกิดไม่เห็นด้วย ทีนี้จะยุ่งและ คงจะยุ่งแน่ๆ ไม่อยากคิดว่าจะมี รมต. ในรัฐบาลชุดนี้ ต้องติดคุกหัวโต เพราะมาตรา ๑๑๒ เป็นกงกรรมกงเกวียน

การแย่งกันทำความดีนั้นไม่มีใครเขาว่าและกลับจะเป็นที่อนุโมทนาสาธุด้วย แต่การแย่งกันสร้างภาพ ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป ก็ยังคงไม่มีใครว่าหรือสนใจ แต่ถ้า ไม่ลืมหูลืมตาดูว่าอะไรควรหรือไม่ควรจะทำอย่างไร แล้ว ก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ทำไมต้องรีบออกข่าวก่อน ไม่รอให้ ครม. อนุมัติให้เรียบร้อยเสียก่อนก็ยังทันจะได้ไม่เป็นปัญหา หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความจำเป็นของกองทัพและประชาชนน่าจะตรงกันได้

ความจำเป็นของกองทัพและประชาชนน่าจะตรงกันได้
เวทย์ เธียรธโนปจัย

• ข่าวไทยรัฐออนไลน์
ผบ.ทบ.ลั่น กองทัพบกจำเป็นต้องตั้งพล.ร.7-พล.ม.3 เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ อย่ากังวลใช้งบฟุ่มเฟือย ปฎิเสธไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อข่มขวัญคนเสื้อแดง ย้ำทหารไม่คิดแบ่งแยกสีเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน วอนเสื้อแดงปิดปากกรณีทหารยิงปชช.มิเช่นนั้นคงไม่จบ...

เรียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
ก่อนอื่นท่านคงอยากให้คนไทยฟังท่านถึงการที่ต้องตั้งพล.ร.๗-พล.ม.๓ ซึ่งเชื่อว่าเราคนไทยก็อยากใหัท่านพูดให้ฟัง ในทำนองเดียวกันพวกเราก็อยากให้ท่านฟังสิ่งที่เรากังวลมากๆเหมือนกันไม่น้อยไปกว่าท่าน จึงขออนุญาตฝากข้อคิดให้ท่านและหวังว่าท่านคงยินดีรับฟัง
๑. เหตุผลของท่านที่ต้องตั้ง พล.ร.๗—พล.ม.๓ เพื่อรักษาอธิปไตยของชาตินั้น ถูกต้องน่ารับฟังและเข้าใจว่าคนไทยคงเห็นด้วยและยินดีสนับสนุน ถ้า...เป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ ท่านมีข่าวหรือข้อมูลอะไรที่บอกได้ไหมว่า เรากำลังถูกคุกคามอธิปไตยของชาติ และใครกำลังคุกคามเราอยู่ ท่านต้องเปิดเผยให้คนไทยทราบจะถือว่าเป็นความลับทางทหารไม่ได้ เพราะคนไทยมีสิทธิจะต้องได้รับรู้ว่ากำลังมีภัยอันตรายอะไรที่คนไทยจะต้องเผชิญจะได้ช่วยสนับสนุนท่านได้ถูก
ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแต่เป็นแผนงานของกองทัพที่จะเตรียมกำลังไว้ล่วงหน้าตามปกติ ก็อยากเสนอให้กองทัพชะลอโครงการไว้ก่อน (ไม่ได้ขอให้ยกเลิกโครงการ) เพราะขณะนี้เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ รัฐบาลกำลังถังแตกเพราะไม่มีเงินต้องกู้เงินมาใช้ ประชาชนกำลังเดือดร้อนเพราะข้าวของเครื่องใช้สิ่งจำเป็นต่างๆ ขึ้นราคาและขาดแคลน ซึ่งท่านก็คงทราบดีอยู่
เราคนไทยเป็นหนี้ทหารส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นรั้วของชาติและคอยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยธรรมชาติ เพราะท่านเป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว เป็นกองทัพเป็นทหารรักษาพระองค์พระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฝากให้ท่านช่วยเหลือดูแลประชาชนที่เดือดร้อน ท่านจึงเป็นความหวังเป็นที่พึ่งของพระเจ้าอยู่หัวและประชาชนด้วย
๒. อย่ากังวลใช้งบฟุ่มเฟือย จริงๆ แล้วคนไทยที่เสียภาษีไม่เคยกังวลที่กองทัพของท่านจะใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน แต่คนไทยกังวลต่างหากว่ากองทัพจะไม่มีงบไม่ได้งบประมาณไว้ใช้ตามความจำเป็น เพราะรัฐบาลบริหารงานไม่เป็น ปล่อยให้มีการทุจริตและไม่สามารถป้องกันทำให้งบประมาณรั่วไหล จนต้องเบียดบังและตัดงบประมาณของกองทัพ ในการจัดซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพไว้ใช้ เพื่อป้องกันประเทศและเพื่อความปลอดภัยของกำลังพลของกองทัพเพราะคนไทยเชื่อว่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศต้องเสื่ยงภัยต่อสู้กับข้าศึกสัตรูแล้วยังไม่ได้รับความปลอดภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้งานประจำตัวอีก จึงเป็นเรื่องไม่สมควรจะเกิดขึ้น
๓. ปฎิเสธไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อข่มขวัญคนเสื้อแดง เรื่องนี้ขอให้กองทัพและรัฐบาลวางใจได้ เพราะเสื้อแดงนั้นเขาไปไกลเกินกว่าจะมาคิดว่าท่านกำลังจะข่มขวัญหรือไม่ข่มขวัญพวกเขา เพราะท่านไม่ใช่เป้าหมายของเขา ประชาธิปไตยต่างหากความเป็นธรรมต่างหากที่พวกเขาอยากได้และกำลังแสวงหากันอยู่ โดยไม่คิดว่าอะไรหรือใครจะขวางพวกเขาได้ต่างหาก
๔. ย้ำทหารไม่คิดแบ่งแยกสีเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน นี่ก็เหมือนกัน ที่คนไทยกับกองทัพคิดตรงกัน ยกเว้นรัฐบาลเท่านั้นไม่ได้คิดอย่างที่ท่านคิดจริงๆ เพราะรัฐบาลมักจะคิดอย่างแล้วทำอีกอย่าง ปากว่าอยากสร้างความปรองดอง แต่ไม่เคยเห็นว่าทำอย่างที่พูดสักทีมัวแต่คิดใช้ ๒ มาตรฐานแล้วจะปรองดองกันได้อย่างไร ท่านช่วยแนะนำให้รัฐบาลใช้วิธีของท่านด้วยเถอะ คนทั่วไปเชื่อว่าทหารไม่คิดแบ่งแยกสี เพราะทหารส่วนใหญ่ก็คือลูกหลานของประชาชน แต่ละคนล้วนมีสัญชาติไทยไม่เหมือนคน ๒ สัญชาติ
๕. วอนเสื้อแดงปิดปากกรณีทหารยิงปชช.มิเช่นนั้นคงไม่จบ...เรื่องนี้ขอเปิดใจพูดกับท่านตรงๆ ในทางกลับกันวอนทหารเปิดปากกรณีทหารยิง ปชช. รับรองว่าเรื่องจบทันที ที่พูดนี้หมายถึงทหารส่วนใหญ่ในกองทัพที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหาร ท่านต้องรู้ว่า มีทหารบางคน บางกลุ่มและบางหน่วย จำนวนหนึ่งที่อยู่นอกแถวอยากได้ยศถาบรรดาศักดิ์ โดยท่านอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ ไปรับคำสั่งฆ่าประชาชนจากรัฐบาล มีคนตาย ๙๑ ศพและบาดเจ็บอีกกว่า ๒ พันคน แล้วความจริงยังไม่ปรากฏท่านจะสบายใจได้อย่างไร ถ้ายังปิดเรื่องนี้อยู่ ถ้าท่านรู้ท่านสามารถช่วยให้เรื่องนี้จบลงได้ทันที ทหารนอกแถวจำนวนหนึ่งกำลังทำให้ทหารดีๆส่วนใหญ่ในกองทัพต้องมัวหมอง พวกเขาจะต้องถูกลงโทษพร้อมทั้งคนสั่งฆ่า เพราะการฆ่าคนนั้นเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ ลูกน้องของท่านท่านก็ต้องรักต้องป้องกันถ้าเขาไม่ผิดและไม่มีใครตำหนิท่านได้กลับจะชื่นชมที่ท่านเป็นนายที่ดี เช่นเดียวกันถ้าลูกน้องของท่านทำผิดเพราะไปรับคำสั่งฆ่าประชาชนมาผิดๆแล้วท่านไม่จัดการปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล ท่านคงจะเป็นนายที่ดีไม่ได้แน่ แล้วจะให้ทหารส่วนใหญ่มองหน้าท่านด้วยความเคารพท่านอย่างสนิทจริงใจได้อย่างไร ถ้าท่านเป็นคนตรงอย่างที่ท่านมักจะประกาศตัวเอง ช่วยกรุณาเปิดปากบอกความจริงกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวและประชาชนได้ทราบด้วยเถิด ชีวิตคนที่ตายจะได้ตายตาหลับเสียที

ความจำเป็นของกองทัพและประชาชนน่าจะตรงกันได้