วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

ทางรอดเศรษฐกิจไทย ตอน ๕



 3. โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ (TGV) มีการคิดโครงการรถไฟความเร็วสูงภายในประเทศสายหนึ่งอย่างเร่งรีบของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เพื่อแสดงว่าเขาก็มีปัญญาคิดเหมือนกันจนถึงขั้นให้คณะกรรมการ ก.คมนาคม ออก MOU ให้กับประเทศจีนซึ่งรับจะให้เงินกู้สนับสนุนการก่อสร้าง รถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-หนองคายด้วยจำนวนเงินที่แพงหูฉี่ถึงกว่า ๑.๕ แสนล้านบาทต่อระยะทาง ๗๕ กม.(หรือตก กม.ละ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) เพื่อหวังที่จะ Block ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องสานต่อโครงการแบบมัดมือชกซึ่งไม่ใช่เพราะรัฐบาลยังสามารถเปลี่ยนแปลงเลิก MOU ได้ในเมื่อทำแล้วไม่คุ้มทั้งๆที่นั่งอยู่ในตำแหน่ง ๒ ปีเศษก็ไม่เคยคิดทำอะไรได้ มาเร่งเอาตอนที่จวนแจใกล้จะถูกปลดระวาง เพื่อหวังแข่งกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่คิดให้พรรคเพื่อไทยทำเพราะท่านอยากให้คนไทยได้ใช้รถไฟความเร็วสูงบ้าง สิ่งที่ท่านคิดนั้นท่านแค่อยากให้มีรถไฟความเร็วสูงวิ่งจากเชียงใหม่ โคราชและมากรุงเทพฯ สุดทางที่หัวหินเท่านั้นเพราะค่าก่อสร้างราคาแพงมาก และท่านก็ไม่ได้หวังว่ารัฐบาลจะทำตามอย่างจริงจัง                           แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยี่โลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีใครคิดว่าเครื่องบินอาจจะถึงจุดจบเพราะเจอคู่แข่งอย่างรถไฟความเร็วสูงซึ่งจะเป็นอนาคตของการเดินทางและขนส่งของมนุษย์ก็ได้ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่า รถไฟความเร็วสูงจะไม่มีอุบัติเหตุเครื่องบินตก Landing Mortality Accidents อย่างที่เกิดกับเครื่องบิน ความเร็วของรถไฟก็กำลังมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสำคัญที่สุดมีค่าโดยสารที่ถูกกว่าเครื่องบิน จึงคาดว่าไม่ช้ารถไฟความเร็วสูงต้องมาแทนที่เครื่องบินค่อนข้างแน่นอน ฉะนั้นถ้าเราจะสร้างเพียงเพื่อให้รู้ว่าเรากำลังแข่งที่จะมีรถไฟความเร็วสูงเหมือนกับลาวหรือเวียตนามกระนั้นหรือ ในเมื่อมองเห็นอนาคตที่เราจะเป็นศูนย์กลางรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศแข่งกับจีนและญี่ปุ่นได้อย่างสบายเพราะทำเลที่ตั้งที่เป็นต่ออย่างดี                                                   

โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ (TGV) จึงควรตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางรถไฟความเร็วสูงก่อนที่เราจะเสีย Ranking of TGV HUB  การเป็นศูนย์กลางรถไฟความเร็วสูงให้ประเทศอื่นไปอีก เช่นเดียวกับที่เราต้องเสียศูนย์กลางการบิน (HUB of Aviation) ให้กับสิงคโปร์ไปแม้เราจะมีทำเลที่ดีกว่า                                                                                                                                   ถ้าจะลงทุนในโครงการ “Mega-Projects” หรือที่เรียกกันว่า “Logistics” จะเป็นการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงและครบวงจรเพื่อให้คุ้มกับการลงทุน แรงงานและวัสดุก่อสร้างรวมทั้งเวลาที่ใช้ไป ถ้าคิดแต่เพียงว่าจะทำกันแบบขอไปทีให้มีอย่างที่คนอื่นเขามีน่าจะไม่คุ้มอย่างที่อยากทำกัน ในทำนองเดียวกันผลตอบแทนก็จะกลับคืนมาในลักษณะทวีคูณเช่นกันถ้าทำอย่างครบถ้วนจริงๆ แผนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกำหนดไว้ ๓ เส้นทางที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด คือ Fade1 สายนครอ่าวไทย-คุนหมิง(จีน) จะเร่งให้เสร็จได้ภายใน ๒ ปี เพราะเรามีตลาดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพแรงมากรอรับอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน คือ อุโมงค์ไทยและเมืองบาดาล ที่ไม่เหมือนใครในโลก โดยเฉพาะตลาดจีนจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นจำนวนมากรวมทั้งนักท่องเที่ยวอื่นๆที่ไปเที่ยวเมืองจีนจำนวนมากรวมอยู่ด้วยซึ่งคาดว่าวันละไม่ต่ำกว่า ๕๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ แสนคนน่าจะถึงไม่ยาก ยิ่งไปกว่านั้น เราจะสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านด้วยการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิงไปฮานอย (เวียตนาม1) เวียงจันทน์ (ลาว) เนปิดอ เมืองหลวงใหม่(พม่า) กับนครเชียงใหม่  พนมเปญ (กัมพูชา) โฮจิมินท์ซิตี้ (เวียตนาม2)กับนครอ่าวไทยอีกด้วย  Fade2 สายนครอ่าวไทย-จาร์กาต้า(อินโดนีเซีย)  และ Fade3 สายนครเชียงใหม่-นิวเดฮี(อินเดีย) ซึ่งไทยจะต้อนคนจากประเทศที่มีคนเป็นร้อยล้านพันล้านมาให้ได้และเราจะต้องเป็นศูนย์กลางรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศให้ได้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น